การใช้งาน PayPal สำหรับธุรกิจ/ร้านค้า

การใช้ PayPal ในธุรกิจมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจาก PayPal มีเครื่องมือและฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตและเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย PayPal มีคุณสมบัติที่ทำให้การซื้อขายออนไลน์ง่ายและปลอดภัย เช่น ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยและรวดเร็ว รวมถึงการคุ้มครองผู้ซื้อและผู้ขายด้วยนโยบายการคืนเงินและความปลอดภัยในการทำธุรกรรม

เอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชีธุรกิจ

  • เลขทะเบียนพาณิชย์ประเทศไทย 13 หลัก
  • ชื่อธุรกิจอย่างเป็นทางการ
  • เอกสารการจดทะเบียนธุรกิจของประเทศไทย
  • หลักฐานที่ตั้งธุรกิจ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

ขั้นตอนการเปิดบัญชี PayPal เพื่อใช้รับเงินสำหรับธุรกิจ / ร้านค้า

เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของ PayPal จากนั้นคลิกปุ่มสมัครสมาชิก หรือปุ่ม “สร้างบัญชี ” ทางด้านบนขวาของเว็บไซต์

เมื่อคลิกเข้ามาแล้ว แพลตฟอร์มจะให้เราเลือกว่าจะเปิดใช้งานบัญชีประเภทใด ให้เลือกเป็น “บัญชีธุรกิจ” เพื่อใช้ในการรับเงินสำหรับร้านค้า/ธุรกิจ ของเรา จากนั้นคลิกที่ “ถัดไป”

กรอกที่อยู่อีเมลและตั้งค่ารหัสผ่านสำหรับบัญชี PayPal ของเรา เมื่อเรียบร้อยแล้ว คลิกที่ปุ่ม “ดำเนินการต่อ”

กรอกข้อมูลธุรกิจหรือร้านค้าของเราตามที่ได้จดทะเบียนธุรกิจของประเทศไทย

เลือกประเภทธุรกิจของเรา จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “ดำเนินการต่อ”

กรอกข้อมูลส่วนบุคคล คลิกปุ่ม “ส่ง” จากนั้นระบบจะให้เราตอบคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของเรา เมื่อตอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว คลิกที่ปุ่ม “ดำเนินการต่อ”

เท่านี้ก็ถือว่าเราทำการเปิดบัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เราไปที่ “กรอกข้อมูลการสมัครของคุณให้เสร็จสมบูรณ์” เพื่อยืนยันตัวตนและอัปโหลดเอกสารจำเป็นเกี่ยวกับธุรกิจ เพื่อการใช้งานบัญชีได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

การรับเงินผ่าน PayPal สำหรับบัญชีธุรกิจ

PayPal มีฟีเจอร์การชำระเงินสำหรับธุรกิจทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่

  • รับชําระเงินออนไลน์ด้วย PayPal Checkout
  • การสร้างลิงก์และปุ่มชำระเงิน : ในกรณีที่มีเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์อยู่แล้ว สามารถสร้างปุ่มหรือลิงก์การชำระเงินผ่าน PayPal และนำลิงก์หรือ QR Code ไปแสดงบนเว็บไซต์ของเราได้เลย เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้โดยตรง
  • รับชำระเงินแบบค่าสมาชิก : เราสามารถเสนอแผนการเป็นสมาชิกให้กับลูกค้าของของเราเพื่อสร้างรายได้ และสามารถรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกเพื่อดูว่าสิ่งใดที่ลูกค้าชื่นชอบและเสนอสิ่งนั้นให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้า

ค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการ

  • ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ค้า PayPal มีค่าธรรมเนียมสำหรับการรับชำระเงินจากการขายสินค้าหรือการทำธุรกิจในเชิงพาณิชย์ โดยค่าธรรมเนียมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศจากผู้ค้าอยู่ที่ 3.90% – 4.40% รวมทั้งมีค่าธรรมเนียมคงที่ตามสกุลเงินที่ได้รับ

ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน หากมีการรับชำระเงินในสกุลเงินที่แตกต่างกับสกุลเงินของบัญชี PayPal ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินจะถูกคิดในรูปแบบของอัตราแลกเปลี่ยน

  • ค่าธรรมเนียมการถอน หากมีการถอนเงินจำนวนน้อยกว่า 5,000 บาท จะถูกคิดค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 50 บาท
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % จากค่าธรรมเนียม

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ PayPal ในธุรกิจ

ข้อดี

  • มีชื่อเสียงในวงการการเงิน การใช้ PayPal ในธุรกิจส่งเสริมความเชื่อถือและเป็นการรับรองคุณภาพของธุรกิจ
  • PayPal มีระบบความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูง ช่วยป้องกันการฉ้อโกงในธุรกิจร้านค้า
  • ช่วยให้ธุรกิจร้านค้าสามารถรับชำระเงินได้ง่ายดาย มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
  • รองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ สามารถรับชำระเงินได้จากหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร
  • ฝ่ายสนับสนุนลูกค้ารองรับภาษาไทย และสามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็วผ่านหน้าเว็บไซต์ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาหรือข้อสงสัยได้อย่างรวดเร็วทันใจ
  • มีนโยบายคุ้มครองผู้ซื้อ และระบบคืนเงินที่รวดเร็ว ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าได้ในการทำธุรกรรม

ข้อเสีย

  • จำเป็นต้องมีการจดทะเบียนธุรกิจ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากในด้านเอกสารเพิ่มมากขึ้น
  • มีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าการใช้บริการชำระเงินอื่น ๆ โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ค้าอยู่ที่ 3.90% – 4.40%รวมถึงยังมีภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ของค่าธรรมเนียม ซึ่งอาจมีผลต่อกำไรของธุรกิจ
  • เรื่องของข้อจำกัดในการถอนเงิน มีขั้นต่ำในการถอน และหากมีการถอนเงินน้อยกว่า 5,000 บาท จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 50 บาท